วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

เรื่อง : บริการต่าง ๆ ของอินเตอร์เน็ต


World Wide Web (WWW) (เวิลด์ไวด์เว็บ )
                     เวิลด์ไวด์เว็บ บริการข้อมูลข่าวสารแบบสื่อผสม ที่เป็นจุดดึงดูดให้ผู้คนส่วนใหญ่ เข้ามา ใช้บริการอินเทอร์เน็ตกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเวิลด์ไวด์เว็บ เป็นเครื่องมือช่วยให้เรา สามารถ ค้นรายละเอียดในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบเกือบทุกเรื่อง สามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งต่าง ๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ใช้งานง่าย สะดวกและรวดเร็ว ทำให้ประหยัดเวลา สามารถเห็นได้ทั้งภาพ และเสียง ทั้งภาพแบบสองและสามมิติ รวมทั้งภาพเคลื่อนไหวอีกด้วย นอกจากนี้ เรายังสามารถ เผยแพร่เอกสารที่เราจัดทำ ไปให้ผู้คนทั่วโลกใช้ผ่านทาง เวิลด์ไวด์เว็บ โดยมีค่าใช้จ่าย ถูกกว่า การตีพิมพ์บนกระดาษ หรือบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เวิลด์ไวด์เว็บ จึงเป็นต้นเหตุสำคัญ ทำให้ สถิติการใช้อินเทอร์เน็ตของผู้คนทั่วโลก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วรวดเร็ว
1. เวิลด์ไวด์เว็บ คืออะไร 
เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web หรือ WWW หรือ W3 หรือ Web) คือ บริการค้น
หรือเรียกดู ข้อมูลแบบหนึ่ง ในอินเทอร์เน็ต ข้อมูลในเวิลด์ไวด์เว็บ จะอยู่ในแบบสื่อผสม หรือ
มัลติมีเดีย (multimedia) ที่มีทั้งตัวอักษร รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหวแบบวิดีโอ 
ข้อมูลจะถูกแบ่งเป็นหน้า ๆ แต่ละหน้าสามารถ เชื่อมโยงถึงกันได้
เป็นแบบเครือข่ายคล้ายใยแมงมุม จากแหล่งต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วโลก

2. จุดเริ่มต้นของเวิลด์ไวด์เว็บ 
ปี ค.ศ. 1990 ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี (Tim Berners-Lee) แห่งสถาบัน CERN (Center
European pour la Recherche Nucleaire) แห่งกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
(เวบไซต์ของ CERN ติดต่อที่ http://www.cern.ch)
ได้คิดค้นวิธีการถ่ายทอดเอกสารข้อมูลที่อยู่ในแบบไฮเปอร์เท็กซ์ ( hypertext)
ซึ่งเป็นเอกสารที่นำเสนอทางเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ข้อมูลในแต่ละหน้า
สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ มานำเสนอผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 
เอกสารแบบไฮเปอร์เท็กซ์นี้ เขียนขึ้นด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ เรียกว่า
ภาษา HTML (Hypertext Markup Language) 
เอกสารข้อมูลที่เขียนขึ้นด้วยภาษา HTML นี้ ต้องใช้โปรโตคอลแบบพิเศษ ชื่อ HTTP
(Hypertext Transport Protocol) ช่วยในการสื่อสาร และรับส่งข้อมูล
ขณะเรียกใช้บริการเวิลด์ไวด์เว็บ ในระบบอินเทอร์เน็ต 
ในปี ค.ศ. 1993 สถาบัน NCSA (National Center for Supercomputing Application)
แห่งมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ได้พัฒนาโปรแกรมที่เรียกว่า เว็บบราวเซอร์ (web browser) ชื่อ
Mosaic ขึ้นมา ทำหน้าที่แปลคำสั่งและข้อมูลที่อยู่ในรูปของเอกสาร HTML
ให้แสดงที่หน้าจอเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ได้อย่างสวยงาม น่าดู 
อย่างที่เราพบเห็นบนในปัจจุบัน โปรแกรม Mosaic ถูกแจกจ่าย
ออกไปให้ผู้ใช้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จืงได้กลายมาเป็น โปรแกรมยอดนิยมไปทันที 
หลังจากนั้นมา บริษัทซอฟแวร์ชั้นนำต่าง ๆ จึงเริ่มพัฒนาโปรแกรมเว็บบราวเซอร์อื่น ๆ
ออกจำหน่ายจ่ายแจก แก่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก 
ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกหาโปรแกรม เว็บบราวเซอร์ มาใช้งานได้หลายโปรแกรม 
นอกจากจะใช้บริการดูข้อมูลจากเวิลด์ไวด์เว็บ แล้ว หลายโปรแกรมยังมีความสามารถอื่น ๆ
ด้วย เช่น บริการสื่อสารด้วย E-mail การค้นข้อมูลแบบ Gopher การถ่ายโอนไฟล์ด้วย ftp
เป็นต้น โปรแกรมเว็บบราวเซอร์ ได้เปลี่ยนโฉมหน้า การใช้ บริการอินเทอร์เน็ตในแบบเก่า ๆ
ที่มีแต่ตัวอักษร ไปเป็นหน้าจอที่มีชีวิตชีวาด้วยสีสันและรูปภาพ 
และทำให้ผู้สามารถเข้าสู่บริการอินเทอร์เน็ตได้ง่ายกว่าเดิมมาก


การค้นข้อมูลโดยใช้ search engine

อินเตอร์เน็ต (Internet) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในยุคของสังคมข่าวสารในปัจจุบัน การสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์กำลังมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ โดยมีขอบข่ายเชื่อมโยงเกือบทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ยังเป็นเครือข่ายของเครือข่าย เพราะอินเตอร์เน็ตประกอบด้วย 
เครือข่ายย่อยจำนวนมาก เชื่อมเข้าด้วยกัน อินเตอร์เน็ตจึงเป็นเสมือนขุมทองแห่งใหม่เพราะเป็นที่รวมของข้อมูลข่าวสารความรู้ต่าง ๆ ทำให้โลกที่กว้างใหญ่ไพศาลแคบเข้ามาอีก ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตนั้นมีมากมาย ทั้งทางด้านการศึกษา การบันเทิง การติดต่อสื่อสารทางจดหมาย การซื้อของ หรือสนุกกับการมีเพื่อนใหม่บนอินเตอร์เน็ต บริการค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต โดยใช้ search engine ก็เป็นอีกบริการหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต (Internet) ที่เราสามารถค้นหาข้อมูลที่เราต้องการได้ 


การค้นหาข้อมูลมีกี่วิธี 
1. การค้นหาในรูปแบบ Index Directory 
2. การค้นหาในรูปแบบ Search Engine 

                                    การค้นหาข้อมูลโดยใช้ search engine

ถ้าเราต้องการค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต แล้วทราบที่อยู่ของเว็บไซต์นั้น ๆ เราสามารถพิมพ์ที่อยู่ของเว็บไซต์ลงในช่อง address ได้เลย แต่ถ้าไม่ทราบว่าข้อมูลนั้น ๆ มีอยู่ในเว็บไซต์ใด ก็ต้องค้นหาด้วย search engine มีขั้นตอน ดังนี้ 
1 .เข้าสู่โปรแกรมอินเตอร์เน็ต ในที่นี้เข้าโปรแกรม Internet Explorer 
2. เข้าเว็บให้บริการ search engine 
3. พิมพ์ข้อความที่ต้องการค้นหาใส่ลงในช่อง search แล้วคลิกที่ค้นหา หรือ search หรือกด enter 
4. โปรแกรมจะแสดงรายชื่อเว็บไซต์ของข้อมูลที่ค้นหา 
5. คลิกเม้าส์ไปที่ชื่อเว็บไซต์ที่เราต้องการ จะพบข้อมูลที่เราค้นหา
ข้อแตกต่างระหว่าง Index และ Search Engine

                คำตอบก็ คือวิธีในการค้นหาข้อมูลแบบ Index เค้าจะใช้คนเป็นผู้จัดรวบรวมและทำระบบฐานข้อมูลขึ้นมา ส่วนแบบ Search Engine นั้นระบบฐานข้อมูลของมันจะได้รับการจัดสร้างโดยใช้ Software ที่มี หน้าที่เกี่ยวกับงานทางด้านนี้โดยเฉพาะมาเป็นตัวควบคุมและจัดการ ซึ่งเจ้า Software ตัวนี้จะมี ชื่อเรียกว่า Spiders การทำงานข้องมันจะใช้วิธีการเดินลัดเลาะไปตามเครือข่ายต่างๆที่เชื่อมโยงถึง กันอยู่เต็มไปหมดใน Internet เพื่อค้นหา Website ที่เกิดขึ้นมาใหม่ๆ รวมทั้งยังสามารถตรวจสอบหาความเปลี่ยนแปลงของ ข้อมูลใน Site เดิมที่มีอยู่ ว่าที่ใดถูกอัพเดตแล้วบ้าง จากนั้นมันก็จะนำเอาข้อมูลทั้งหมดที่สำรวจเข้ามา ได้เก็บใส่เข้าไปในฐานข้อมูลของตนอัตโนมัติ ยกตัวอย่างของผู้ให้บริการประเภทนี้เช่น Excite , Lycos Infoserch เป็นต้น การค้นหาด้วยวิธี Search Engine นั้นมักจะได้ผลลัพธ์ออกมากว้างๆชี้เฉพาะเจาะจงได้ยาก บางครั้งข้อมูลที่ ค้นหามาได้อาจมีถึงเป็นร้อยเป็นพัน Site แล้วมีใครบ้างหละที่อยากจะมานั้งค้นหาและอ่านดูที่จะเพจ ซึ่งคง ต้องเสียเวลาเป็นวันๆแน่ ซึ่งก็ไม่รับรองด้วยว่าคุณจะได้ข้อมูลที่คุณต้องการหรือไม่ ดังนั้นจิงมีหลักในการค้น หา เพื่อให้ได้ข้อมูลใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งจะขอกล่าวในตอนหลัง                     
        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น